วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ไปศูนย์ 20 กะเพื่อน ก.4/2

เห็นว่าหยุด 3 วันก็ว่างจัด
ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยมาสนอง need ให้เพื่อนๆ ดีก่า
และก้อเป็นการทำงานไปในตัวด้วย

เพื่อนๆ ก.4/2 ที่น่า love ของเราทุกคน
หวังว่าจะมีโอกาสได้อ่าน blog นี้น้า
เรามาอัพรูปไว้ให้ทุกคนได้เก็บเป็นที่ระลึกไว้
เพราะจนปัญญาจะกระจายรูปให้ทุกคนได้รับง่ะ

แล้วเรื่องทำรายงานค่อยมาว่ากัน
หยุด 3 วันนี่พักผ่อนให้เต็มที่ก่อนดีกว่า
พวกแกไปไหนกันบ้างอ่ะ
มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะ

รูปๆ
ถ่ายได้ทุกสถานการณ์ 55
เลยไปดูห้องจ่ายยาไม่ทันเลย




ฝ้าย ส.ก. ป่าวเนี่ย

ถ่ายรูปรวมกันหน่อย

อีกรูปนะค่ะ นิสิต

พั้งค์ ถ่ายรูปหน่อยยยย...

ฝ้ายกะทราย จากรูปนี้แสดงให้เห็นว่าเรานั่ง 4 คนกันได้สบายๆ เห็นม่ะ (แต่ไอ้วินต้องไปนั่งพื้น 555+)

และก้อหมดเพียงเท่านี้
ไว้รูปที่เหลือให้ต๊อบจัดให้นะ เพราะอยู่ในกล้องต๊อบ
ไม่สามารถไปเสาะหามาให้พวกแกได้

Happy with your holiday
Bye bye for now

วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2552

แนะนำหนังเพิ่ม

จากบทความที่แล้ว
ที่สัญญาไว้ว่าจะมาแนะนำหนังเพิ่ม

ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ ได้หาหนังที่เราแนะนำไปมาดูกันบ้างหรือยัง
ถ้ายังไม่มีเวลา ก็ไม่เป็นไร
แต่ถ้ามีเวลาว่างเมื่อไหร่ อย่าลืมไปหามาดูกันนะ
รับรองว่าเป็นการใช้เวลาอย่างคุ้มค่าแน่นอน
อย่างน้อย ก็คุ้มค่าความสนุกที่ได้รับอ่านะ

วันนี้ขอโอกาสแนะนำหนังแนว action/adventure เพิ่มล่ะกัน
ตอนเด็กๆ อ่ะ เราชอบดูหนังแนวนี้มาก
เพราะมันส์เหลือเกิน

แต่เด๋วนี้ ไม่รุเพราะอะไร กลับเริ่มหันมาดู romantic comedy มากกว่า
เพราะวัย? รึเปล่านะ
555
ไม่ใช่แก่นะ
แค่อยากจะดูอะไรที่มันได้คิดมากขึ้น ก็เท่านั้นเอง

มาดูหนังแนว action/adventure กันดีกว่า
Gone in 60 seconds
หนังเกี่ยวกับการขโมยรถ ที่ Nicholas Cage เป็นตัวแสดงเอก
และเป็นจุดกำเนิดของนักแสดงชื่อดังหลายๆ คน
รวมทั้ง Angelina Jolie ด้วย(ตอนนั้นเพิ่งมีผลงานเรื่อง Lara Croft ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้เธอเกิดในวงการหนัง และหนังเรื่องนี้ก็ช่วยจุดประกายความดังของเธอให้ยิ่งโด่งดังขึ้นไปอีก)



เรื่องย่อ
แรนดอลล์ "เมมฟิส" เรนส์ หันหลังให้กับโลกอาชญากรรมมานานแล้ว แต่หลังจากที่เพื่อนเก่าคนหนึ่งแวะมาเยี่ยม เขาก็ต้องหวนกลับ ไปทำในสิ่งที่เขาถนัดที่สุดอีกครั้งหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือการขโมยรถ เพื่อที่จะช่วยชีวิตน้องชายของเขา ภายในหนึ่งคืนเขาต้องขโมยรถให้ได้ 50 คัน เพื่อแลกเปลี่ยนกับพวกมาเฟีย

เขาเป็นพวกคลั่งรถขนานแท้ เมมฟิสหลงใหลในรถยนต์อย่างที่สุด ไม่ว่าจะใช้เชื้อเพลิงแบบไหน สมรรถนะเป็นอย่างไร เครื่อง V 8, V-12 เทอร์โบชาร์จ แต่งเต็มที่ หรือมาแบบเดิมๆ ก็แล้วแต่ เขารู้รายละเอียดทุกๆ อย่างเกี่ยวกับรถทุกรุ่นทุกแบบ เมมฟิสเป็นยอดนักขโมยรถระดับตำนาน ไม่ว่าจะใช้ล็อคหรือสัญญาณกันขโมย หรือแม้แต่ตัวล็อคพวงมาลัยก็หยุดยั้งเขาไม่ได้ รถของคุณจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยภายใน 60 วินาทีอย่างแน่นอน

เป็นเวลาหลายปีทีเดียว ที่เมมฟิสเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของกฎหมายไปได้ พร้อมกับขโมยรถทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น แต่เมื่อสถานการณ์ตึงเครียดถึงขีดสุด เขาก็สละทุกอย่าง และทุกคนที่เขารัก เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทว่าเมื่อน้องชายของเขาพยายามจะเดินตามรอยพี่ชาย แต่กลับตกอยู่ในสถานการณ์คอขาดบาดตาย เมมฟิสจึงถูกดูดกลับเข้าสู่ชีวิตแบบเก่าของเขา เพื่อทำการขโมยครั้งยิ่งใหญ่เป็นครั้งสุดท้าย...


เรื่องที่สอง
National Treasure 1,2
เรื่องนี้ก็แสดงนำโดย Nicholas cage เหมือนกัน
--ส่วนตัวไม่ได้แอบปลื้มเค้านะ แต่ไม่รุทำไมคิดได้แต่ผลงานเค้า ^^ --
เป็นหนังแนวนักโบราณคดีที่ฉลาดมาก และตามค้นหาสมบัติตามลายแทงที่ตัวเองค้นพบ
และลายแทงเหล่านั้นก็พาเค้าไปทำเรื่องผิดกฎหมายมากมาย
ถึงแม้ว่าจะผิด cage ก็เชื่อว่าสิ่งที่เค้าทำเป็นสิ่งที่ถูก
เพราะเป็นการขุดค้นหาสมบัติที่หายไปของชาติ ให้กลับคืนมาสู่สายตาของคนในชาตินั่นเอง








เรื่องย่อของภาคที่ 1
ถ้าชอบก็ไปหาภาคที่ 2 ดูกันต่อเองนะ
เมื่อ เบนจามิน แฟรงคลิน เกทส์ ตามหาขุมทรัพย์ล้ำค่า ที่บรรพบุรุษของเขาตามหามา 8 ชั่วอายุคน นั่นคือ ทรัพย์สินเพื่อเป็นทุนในการปฏิวัติสงคราม ที่ถูกซ่อนไว้โดยประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน, โทมัส เจฟเฟอร์สัน และ เบนจามิน แฟรงคลิน เขาจะต้องหาสถานที่เก็บสมบัติ พร้อมกับหารหัสลับในการเปิดขุมทรัพย์ ซึ่งซ่อนอยู่ในรัฐธรรมนูญให้พบ และแผนที่นี้เอง จะพาเขาย้อนกลับไปยังสถานที่ ที่ถูกเขียนขึ้นในวันประกาศอิสระภาพอเมริกา...

บัดนี้ เบน เกทส์ (นิโคลัส เคจ) ผู้รักอิสระเสรี กำลังเข้าใกล้ความสำเร็จ ในที่สุด เขาก็รู้ที่ซ่อนของเบาะแสสุดท้าย ที่จะนำไปสู่ที่ซ่อนขุมทรัพย์ แผนที่ลับซึ่งซ่อนอยู่ด้านหลังคำประกาศอิสรภาพ เมื่อเรื่องแผนที่นี้รู้ไปถึงคู่ปรับที่ไร้ปรานีของเขา เอียน โฮว์ (ฌอน บีน) เบนก็ต้องเจอปัญหาที่ยากจะตัดสินใจ โดยเขาจะต้องเป็นคนแรกที่ขโมยเอกสารล้ำค่าที่สุดของอเมริกา ซึ่งได้รับการคุ้มกัน โดยระบบรักษาความปลอดภัยที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก ไม่เช่นนั้น มันก็จะตกไปอยู่ในมือของคนร้าย

เกทส์ซึ่งต้องแข่งขันกับเวลา คู่ปรับ และเจ้าหน้าที่รัฐบาล ร่วมมือกับเพื่อนผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค ไรลีย์ โพล (จัสติน บาร์ธา) และ อาบิเกล เชส (ไดแอน ครูเกอร์) ภัณฑารักษ์แห่งหอจดหมายเหตุแห่งชาติ สาวสวยที่ช่วยเหลือเขาอย่างไม่เต็มใจ ในการปฏิบัติภารกิจเหลือเชื่อนี้ให้ลุล่วงไป พวกเขาจะประสบความสำเร็จ ในการดำเนินแผนโจรกรรมที่ท้าอันตรายที่สุดรึเปล่า? คำประกาศอิสรภาพจะนำเบนให้เข้าใกล้สมบัติมากขึ้นรึเปล่า? ในเหตุการณ์ลุ้นระทึกหักมุมครั้งแล้วครั้งเล่า จากช่องระบายอากาศของหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ไปสู่สุสานใต้ดินใต้นครนิวยอร์ก คำตอบได้ถูกเปิดเผยออกมา ขณะที่เบน เกทส์ได้ไขปริศนาลึกลับ เบื้องหลังขุมทรัพย์แห่งชาติ ที่ล้ำค่าที่สุดของอเมริกา



และหนังของวันนี้ ก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้แหละ
แล้วคอยติดตามกันนะ
ว่าจามีหนังเรื่องไหนอีก

วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2552

My favourite Stuff - สิ่งที่ฉันชื่นชอบ

การเดินทางของเราเดินทางจนมาถึงวันตรุษจีนของปี 2009 แล้ว
เร็วใช่ไหมล่ะเพื่อนๆ?

แป๊ปๆ ก็ถึงวันที่ 25 มกราคมแล้ว
เหลือเวลาอีกไม่นาน พวกเราก็จะจบปี 1 กันแล้ว
ถ้าจะบอกว่า ตั้งแต่เกิดมาจนถึงวันนี้ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรก็คงแปลกดีเนาะ

จนถึงวันนี้ เราชอบอะไรหลายๆ อย่าง
ชอบตัวเอง ชอบคนรอบข้าง ชอบดาราบางคน ชอบนักร้องบางกลุ่ม ชอบการถ่ายรูป
ชอบเล่นกีฬา ชอบฟังเพลง ชอบดูหนัง ชอบดูบอล ชอบแสงไฟบนเวที ชอบต้นไม้
ชอบบรรยากาศดีดี และก็ชอบอะไรๆ อีกหลายอย่าง

ถ้าจะให้บอกว่า ชอบอะไรมากที่สุด ก็คงจะบอกไม่ได้
ก็เลยจะยกบางเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง



สิ่งหนึ่งที่ชอบมาก ก็คือ การดูหนัง



หรือที่เรียกว่ากันอย่างเป็นทางการว่า วิจารณ์ภาพยนตร์ นั่นเอง

ทำไมอยู่ถึงมาชอบน่ะหรอ?
นั่นก็เพราะว่า ตั้งแต่เด็ก เกิดมาชีวิตก็ติดอยู่กับทีวี
ว่างๆ ไม่มีอะไรทำ ก็มานั่งดูทีวี
ที่บ้านติดอยู่ UBC ส่วนใหญ่ก็เลยชอบดูหนังช่อง HBO, Cinemax, Star movies
มากกว่าละครไทย
ไม่ต้องเสียเวลาไปเช่าหนังจากข้างนอก ก็ได้ดูหนังมากมาย
ถ้าวันไหนว่างจริงๆ ก็ดูเข้าไปวันละ 3-4 เรื่อง
นานๆ เข้า UBC ไม่รู้จะเปิดอะไรให้ดู ก็เปิดเรื่องเดิมๆ นั่นแหละให้ดู
ดูเรื่องเดิม ดูไปดูมาก็เก็บรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้มากขึ้น
ดูไปอีกหลายรอบ
ก็เริ่มเห็นจุดเด่น และจุดด้อยของหนัง
ทีนี้ก็เริ่มวิจารณ์หนัง - -
แบบว่าดูแล้วมันหงุดหงิดไง ทำไมฉากนั้นเว่อจัง ทำไมฉากนี้พระเอกไม่ตาย ถ้าไม่ใช่พระเอกก็ตายไปแล้ว!!
อะไรประมาณนี้

พอเราโตขึ้น ออกไปพบปะเจอคนใหม่ๆ
ก็ได้แชร์เรื่องราว ประสบการณ์เกี่ยวกับการดูหนังกับพวกเค้า
ก็ทำให้ยิ่งหลงรักการดูหนังมากขึ้นไปอีก
เพราะพบว่าการดูหนังไม่ใช่แค่การผลาญเวลาไปวันๆ
แต่เป็นสิ่งที่สร้างประโยชน์ให้เรามากมาย
ทั้งให้ประโยชน์เรื่องภาษาอังกฤษทั้ง speaking+listening
ยังให้ความสนุกสนาน ให้มีเรื่องไปคุยกับเพื่อน ให้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ในชีวิตจริงคงไม่ได้เจอ
เช่น การทำคลอดม้า, การโดดบั้นจี้จัมพ์, วัฒนธรรมของชาติอื่นๆ ฯลฯ
หนังยังให้ความคิดสร้างสรรค์แก่เราด้วย เห็นได้ชัดจากพวกผลงานของ Steven Speilberg
ที่แม้ว่าผลงานหนังของเค้าจะเกินความจริงไปหน่อย แต่มันก็เป็นไอเดียที่บรรเจิด
นอกจากนี้ยังได้รับการยอมรับจากคนมากมาย จนได้สร้างเป็น ภาพยนตร์

ตัวอย่างหนังของ Steve
- Jurassic Park
- The war of the world
- The Transformer
- The day the earth stood stills
และอื่นๆ

ถ้าเค้าไม่เจ๋งจริง คงไม่สามารถสร้างหนังที่เกินความจริง หนังที่มีคนวิพากย์วิจารย์มากมาย
และเป็นหนังที่คนมากมายเสียตังค์ไปรับชมได้

ก็ขอหยุดเรื่อง steve ไว้เท่านี้
กลับมาเรื่องของเราดีกว่า
รู้สึกว่าพูดมายาวมากแล้ว

ขอสรุปไว้สั้นๆ ว่า

เรารักการดูหนังมาก แต่บางครั้งคนเราก็อาจจะไม่ได้ชอบสิ่งเดิมๆ ตลอดไป
จากการที่เราได้เลือกวิชาเลือกเกี่ยวกับหนังถึง 2 วิชา
อันได้แก่ intro to film, life refl film
ทำให้เราเริ่มเบื่อการดูหนังขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ
ไม่ใช่เพราะหนังไม่สนุกนะ
แต่เพราะเราดูหนังในอาทิตย์หนึ่งๆ มากเกินไปหน่ะสิ
ดูจนมันเซ็ง ดูจนเข้าใจว่าพล็อตเรื่องของหนังมีอยู่ไม่กี่แบบ
และสุดท้ายแล้ว หนังส่วนใหญ่ก็จบแบบ happy ending
มีหนังเพียงไม่กี่เรื่องที่จะให้ตัวเอกตาย
ตั้งแต่ดูมาเคยเจอเพียง 2 เรื่องเท่านั้น

เราคิดว่า ซักวันเราคงจะกลับมาคลั่งไคล้การดูหนังใหม่
แต่ตอนนี้ขอพักไว้ก่อน
เพราะเราเริ่มสนใจเรื่องการ produce หนังมากกว่าแล้วแหละ ^^

สุดท้ายและท้ายสุด ขอจบด้วยการแนะนำหนังเรื่องที่เจ๋งๆ ไว้แล้วกันนะ
เผื่อจะมีเพื่อนๆ มาหลงใหลในการดูหนังแบบเราบ้างงงงงงง
(ก้ออาจารย์บอกให้ชักชวนง่ะ แต่เราก้ออยากชวนด้วย เพราะการดูหนังมัน เจ๋ง เจงๆ)
ปล. ขอบคุณเพื่อนคนที่อ่านจนจบ
และขอโทษที่พิมยาวไปหน่อยนะ มันติดลมอ่ะ ><


แนะนำหนัง
Genre - Drama

I am sam



Shallow Hal



Legally Blonde

















Genre - Romantic


Nottings Hill--The best of Julia Robert



Love Actually



The holiday


















Genre - Comedy

Liar Liar
เรื่องนี้เก่ามากแล้ว แต่เด็ดมากๆ แสดงโดย Jim Carrey



She's the man


















Genre - Action

Transformers



Transporter

นอกจากนี้ก็มีหนังอีกมากมายอ่ะ
แต่อัพไม่ไหวแล้ว
ไว้วันหลังจะมาแนะนำเพื่อนๆ อีกนะ

ยังไงอ่านแล้ว ช่วยเม้นให้ด้วยน้า
thx

วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2552

Memory Infinite Flash Drive

Memory Infinite Flash Drive แบบต่อขยายได้

คงจะดีไม่น้อยหากสามารถค่อยๆ ซื้อ Flash Drive แค่พอดีกับความต้องการก่อน เมื่อใช้ไม่พอ ก็ซื้อมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ต้องโยนอันเก่าทิ้งไป ลองมาดู Concept Flash Drive นี้กัน



Memory Infinite นี้ออกแบบโดย Vicky Wei จะเป็น Flash Drive พิเศษซึ่งมีทั้งขั้วต่อ USB ตัวผู้และตัวเมียอยู่ที่ปลายทั้งสองด้าน เวลาไม่ใช้ก็สามารถหันมาต่อกัน ทำให้เป็นวง สามารถต่อเรียงๆ กันหลายๆ อันก็ได้ และที่สำคัญ เมื่อนำมาต่อเรียงกันแล้ว ความจุของ Memory Infinite มันก็จะบวกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วย เช่น อันแรกความจุ 1 GB อีกอัน 2 GB เมื่อต่อกัน มันก็เป็น 3 GB ได้เลย วิเศษจริง

แต่ช้าก่อน .... นี่เป็นเพียงแค่ Flash Drive ในอุดมคติ ยังไม่รู้ว่าจะมีการทำออกมาขายหรือไม่ หากมีจริง ก็คงจะดีไม่น้อย

วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2552

To เขาค้อ, เพชรบูรณ์

ผ่านวันที่ 31 ธันวาคมมา 5 ชั่วโมงกับอีก 45 นาที
ดวงตาของฉันก้อเปิดขึ้น
พร้อมกับเสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือที่ร่ำร้อง
ราวกับไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
ถ้ามือที่อ่อนแรงของฉันไม่เอื้อมไปหามัน

เสียงนี้เป็นทั้งเสียงที่ฉันอยากจะได้ยิน
และก้อไม่อยากได้ยิน

ที่เป็นอย่างนั้นก้อเพราะว่า
มันเป็นเสียงที่พร่ำบอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า
"ถึงเวลาเดินทางแล้ว"

ในเวลานี้ ฉันอยากไปเดินทางไปที่ที่มีอากาศหนาวมากกว่าสิ่งใด
แต่สิ่งที่หยุดความต้องการของฉันไว้
ก็คือ "หัวที่หนักอึ้ง" ซึ่งเกิดจากอาการที่เรียกว่า "นอนไม่พอ"
เพราะเมื่อคืนมัวแต่ใช้เวลานอนที่มีอยู่น้อยนิด
ไปดูทีวีช่อง 7 ที่ถ่ายทอดสด Hands ให้ได้ดูกัน

เฮ้อๆๆๆๆ
เกริ่นนำมามากพอแล้ว
ขอเข้าเรื่องเลยล่ะกัน

พอถึงเวลาหกโมงครึ่ง ล้อรถก้อเริ่มหมุนออกจากบ้าน
ขับไปนานมาก ประมาน 4 ชม. ได้
ก้อถึงลพบุรี
แวะไปเที่ยวเขื่อนป่าสักที่ไม่มีดอกทานตะวันบานให้เห็นอีกแล้ว
เพราะช่วงนี้ไม่ใช่หน้าที่มันจะบาน
แต่ถึงอย่างนั้น พอดูๆ ไป มันก้อเป็นดอกทานตะวันที่สวยไปอีกแบบ
ซึ่งเราคิดว่า จะมีซักกี่คนกันที่ได้เห็นทุ่งทานตะวันที่ยังไม่บานมากขนาดนี้

เนื่องจากไม่มีดอกทานตะวันให้ถ่ายรูป
เราก้อเลยถือโอกาสยืนรับลมริมเขื่อนป่าสักฯ แทน
ขอบอกเลยว่าลมที่นี่เค้าไม่ธรรมดาจริงๆ
เป็นลมที่ แรง มากๆ
ชนิดที่ว่าถ้าหัวไม่ปลิวก้อให้มันรู้ไป

หลังจากนั้นก้อไปเที่ยวเขาค้อต่อ และก้อไปต่อที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ตอนแรกนึกว่ามาเที่ยวที่นี่จะได้เจอแต่อากาศเย็นสบาย
เหมือนไปต่างประเทศ
แต่เป็นอย่างนั้นแค่ช่วงที่ไม่มีแดดเท่านั้น
ถ้าช่วงไหนมีแดดนะ
อยากบอกว่า อากาศมันทรมานมาก
เหมือนกับจะเป็นไข้ยังไงยังงั้น
เพราะตรงไหนที่มีแดด อากาศก้อจะอบอุ่นถึงร้อน
แต่ถ้าตรงไหนที่ไม่มีแดด อากาศจะเย็นมากจนต้องใส่เสื้อหนาว
คิดแล้วยังเวียนหัวไม่หาย

อาการเวียนหัวยังไม่หมดแค่นั้น
เพราะเมื่อบวกกับการไปเที่ยวเขาค้อ ที่จะต้องนั่งรถขึ้น-ลง เขานานพอสมควร
เรียกอาการ "เมารถ" ได้ไม่น้อยเลย
ทั้งๆ ที่เคยนั่งรถไป ปาย มาแล้ว
ผ่านมรสุม 780 กว่าโค้งมาแล้ว
ก้อยังไม่รุสึกเมารถมากเท่าการนั่งรถเที่ยวที่เขาค้อเลย

เอาเป็นว่า ไปเที่ยวเขาค้อครั้งนี้ ประทับใจสถานที่ท่องเที่ยวมาก
แต่ไม่ประทับใจการนั่งรถ+แดด ซักเท่าไหร่
ยังไงก้อจะอัพโหลดรูป ให้เพื่อนๆ ได้ดูกันและกันน้า

สุดท้ายนี้ขอบอกว่า อยู่ที่ไหนก้อไม่สบายเท่าบ้านเรา ^^
คอนเฟิร์มเลย


บรรยากาศริมเขื่อนป่าสัก
ดูต้นไม้ก้อจะรู้ถึงความแรงของลมเลย



ที่นี่เมฆเยอะจริงๆ
ฝนเลยตกทุกวันเลย
แต่เสียดายที่ลมแรง เลยไม่มีทะเลหมอกให้เห็น



ในที่สุดก้อได้ลงมาเหยียบพื้นที่ภูหินร่องกล้า



นี่คือ ลานหินแตก



แต่ยังไม่เด็ดเท่าลานหินปุ่ม ที่ได้ชื่อว่าเป็น landmark ของเพชรบูรณ์กันเลยทีเดียว



นี่คือ ที่พักของเราเอง
ที่พักที่เป็นสีขาวบริสุทธิ์ทั้งหลัง
ด้านในเองก็เป็นสีขาวล้วนๆ ไม่มีสีอื่นเลย
ให้อารมณ์ igloo มากๆ



อันนี้คือน้ำตกศรีดิษฐ์
ที่เอาชื่อของ นายทหารประพจน์ ศรีดิษฐ์ มาตั้ง
เป็นน้ำตกหินชั้นขนาดใหญ่ที่อยู่ในเขาค้อ
**เห็นอากาศเย็นๆ อย่างนี้ยังมีคนลงไปเล่นน้ำเล้ยยย**



ปิดท้ายด้วยรูป ดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่จะมีให้เห็นเฉพาะในช่วง
เดือนธันวาคม-มกราคม เท่านั้น
และส่วนมากจะขึ้นในป่าลึก
ไม่ได้มีให้เห็นมากนัก โชคดีจริงๆ ที่ได้เจอ ^^

และเราก้อขอปิดท้ายการเดินทางครั้งนี้เอาไว้แต่เพียงเท่านี้
การเดินทางครั้งต่อไปของเราก้อคงจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้
ที่ คณะ O.O ไง
เพราะการเดินทางคือการที่ได้ก้าวเดินไปเจอประสบการณ์ใหม่ๆ ในทุกทุกวัน
ถึงแม้ว่าจะเป็นสถานที่ที่เคยไปมาแล้วก็ตาม

วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ที่ที่เคยมองข้าม

ว่ากันว่า การเดินทางของคนเราไม่เคยสิ้นสุด

ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ

เร็วๆ นี้ การเดินทางของเราก็ได้นำเราไปที่ CTW
หรือที่เรียกอีกชื่อว่า central world

ทำให้ได้ไปเหนอะไรใหม่ๆ อีกมาก

ทั้งๆ ที่อยู่เตรียมมาหลายปี
แต่กลับไม่เคยพบว่า

ที่ลานของ CTW มีเบียร์การ์เด้นของบริษัทเบียร์ถึง 5 บริษัททีเดียว
อันได้แก่ singha+asahi, federbrau, heineken, chang and tiger










ทั้งหมดนี้ ก้อคือประมวลภาพของสถานที่ต่างๆ นะ
เหนอย่างงี้

เราก้อไม่ได้มีโอกาสเข้าไปจิบเบียร์เคล้าเสียงเพลง
เพราะว่าดึกมากแล้ว

เลยได้แต่นั่งฟังเพลงอยู่ข้างนอก

ถ้ามีไคสนใจอยากลองไปดูนะ
แนะนำ federbrau
เพราะดนตรีเค้าดีมาก สนุกกลบลานเบียร์เจ้าอื่นหมดเลย
เจ๋งจริงๆ


for all of u, who make it here
who have enough time to read all the way down here

I WISH YOU MERRY CHRISTMAS AND HAPPY NEW YEAR

HAIL!!!!!!!!!!!!!

LET THIS NEW YEAR BE A BETTER YEAR
A BETTER LIFE
A BETTER YOU
A BETTER ME

A BETTER THAILAND


A BETTER WORLD

วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551

แนะนำ ซีรีส์ Chuck

Chuck: The Complete First Season ชัค สายลับสมองล้น ปี 1 (DVD)

เป็นเรื่องของหนุ่มเซียนคอมพิวเตอร์ชื่อ ชัค ซึ่งทำงานแผนกไอที ของร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า (คล้ายๆ พาวเวอร์บายในบ้านเรา แต่ดูไฮเทคกว่า) ที่เป็นพวกสติเฟื่อง มีเพื่อนเก่าสมัยเรียนเป็น CIA บังเอิญเพื่อนเก่าถูกหักหลังจากคนในองค์กรและส่งมอบภาระมาโดยไม่รู้ตัว ซึ่งภาระนั้นคือการกำความลับทั้งหมดของ USA โดยมี CIA สาวตามมารับผิดชอบความผิดพลาดดังกล่าว และ “ชัค” พระเอกของเรา ไม่มีทางเลือก สุดท้ายจึงต้องทำงานเป็นทั้งพนักงานร้านไฟฟ้าพร้อมๆ กับเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษ CIA

Chuck Bartowski, ace computer geek at the BuyMore, is not in his right mind. That's a good thing. Ever since he unwittingly downloaded stolen government secrets into his brain, action, excitement and a cool secret-agent girlfriend have entered his life. It's a bad thing, too. Because now Chuck is in danger 24/7.

Executive producers Josh Scwartz (The OC, Gossip Girl) and McG (Charlie's Angels, We Are Marshall) merge techno-gadgetry, martial-arts smackdowns, narrow escapes and gorgeous spies in short shorts into this action comedy about a millennium Everyguy. It's "Get Smart for a 24 world" (Troy Patterson, Slate).