ผ่านวันที่ 31 ธันวาคมมา 5 ชั่วโมงกับอีก 45 นาที
ดวงตาของฉันก้อเปิดขึ้น
พร้อมกับเสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือที่ร่ำร้อง
ราวกับไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
ถ้ามือที่อ่อนแรงของฉันไม่เอื้อมไปหามัน
เสียงนี้เป็นทั้งเสียงที่ฉันอยากจะได้ยิน
และก้อไม่อยากได้ยิน
ที่เป็นอย่างนั้นก้อเพราะว่า
มันเป็นเสียงที่พร่ำบอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า
"ถึงเวลาเดินทางแล้ว"
ในเวลานี้ ฉันอยากไปเดินทางไปที่ที่มีอากาศหนาวมากกว่าสิ่งใด
แต่สิ่งที่หยุดความต้องการของฉันไว้
ก็คือ "หัวที่หนักอึ้ง" ซึ่งเกิดจากอาการที่เรียกว่า "นอนไม่พอ"
เพราะเมื่อคืนมัวแต่ใช้เวลานอนที่มีอยู่น้อยนิด
ไปดูทีวีช่อง 7 ที่ถ่ายทอดสด Hands ให้ได้ดูกัน
เฮ้อๆๆๆๆ
เกริ่นนำมามากพอแล้ว
ขอเข้าเรื่องเลยล่ะกัน
พอถึงเวลาหกโมงครึ่ง ล้อรถก้อเริ่มหมุนออกจากบ้าน
ขับไปนานมาก ประมาน 4 ชม. ได้
ก้อถึงลพบุรี
แวะไปเที่ยวเขื่อนป่าสักที่ไม่มีดอกทานตะวันบานให้เห็นอีกแล้ว
เพราะช่วงนี้ไม่ใช่หน้าที่มันจะบาน
แต่ถึงอย่างนั้น พอดูๆ ไป มันก้อเป็นดอกทานตะวันที่สวยไปอีกแบบ
ซึ่งเราคิดว่า จะมีซักกี่คนกันที่ได้เห็นทุ่งทานตะวันที่ยังไม่บานมากขนาดนี้
เนื่องจากไม่มีดอกทานตะวันให้ถ่ายรูป
เราก้อเลยถือโอกาสยืนรับลมริมเขื่อนป่าสักฯ แทน
ขอบอกเลยว่าลมที่นี่เค้าไม่ธรรมดาจริงๆ
เป็นลมที่ แรง มากๆ
ชนิดที่ว่าถ้าหัวไม่ปลิวก้อให้มันรู้ไป
หลังจากนั้นก้อไปเที่ยวเขาค้อต่อ และก้อไปต่อที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ตอนแรกนึกว่ามาเที่ยวที่นี่จะได้เจอแต่อากาศเย็นสบาย
เหมือนไปต่างประเทศ
แต่เป็นอย่างนั้นแค่ช่วงที่ไม่มีแดดเท่านั้น
ถ้าช่วงไหนมีแดดนะ
อยากบอกว่า อากาศมันทรมานมาก
เหมือนกับจะเป็นไข้ยังไงยังงั้น
เพราะตรงไหนที่มีแดด อากาศก้อจะอบอุ่นถึงร้อน
แต่ถ้าตรงไหนที่ไม่มีแดด อากาศจะเย็นมากจนต้องใส่เสื้อหนาว
คิดแล้วยังเวียนหัวไม่หาย
อาการเวียนหัวยังไม่หมดแค่นั้น
เพราะเมื่อบวกกับการไปเที่ยวเขาค้อ ที่จะต้องนั่งรถขึ้น-ลง เขานานพอสมควร
เรียกอาการ "เมารถ" ได้ไม่น้อยเลย
ทั้งๆ ที่เคยนั่งรถไป ปาย มาแล้ว
ผ่านมรสุม 780 กว่าโค้งมาแล้ว
ก้อยังไม่รุสึกเมารถมากเท่าการนั่งรถเที่ยวที่เขาค้อเลย
เอาเป็นว่า ไปเที่ยวเขาค้อครั้งนี้ ประทับใจสถานที่ท่องเที่ยวมาก
แต่ไม่ประทับใจการนั่งรถ+แดด ซักเท่าไหร่
ยังไงก้อจะอัพโหลดรูป ให้เพื่อนๆ ได้ดูกันและกันน้า
สุดท้ายนี้ขอบอกว่า อยู่ที่ไหนก้อไม่สบายเท่าบ้านเรา ^^
คอนเฟิร์มเลย
บรรยากาศริมเขื่อนป่าสัก
ดูต้นไม้ก้อจะรู้ถึงความแรงของลมเลย
ที่นี่เมฆเยอะจริงๆ
ฝนเลยตกทุกวันเลย
แต่เสียดายที่ลมแรง เลยไม่มีทะเลหมอกให้เห็น
ในที่สุดก้อได้ลงมาเหยียบพื้นที่ภูหินร่องกล้า
นี่คือ ลานหินแตก
แต่ยังไม่เด็ดเท่าลานหินปุ่ม ที่ได้ชื่อว่าเป็น landmark ของเพชรบูรณ์กันเลยทีเดียว
นี่คือ ที่พักของเราเอง
ที่พักที่เป็นสีขาวบริสุทธิ์ทั้งหลัง
ด้านในเองก็เป็นสีขาวล้วนๆ ไม่มีสีอื่นเลย
ให้อารมณ์ igloo มากๆ
อันนี้คือน้ำตกศรีดิษฐ์
ที่เอาชื่อของ นายทหารประพจน์ ศรีดิษฐ์ มาตั้ง
เป็นน้ำตกหินชั้นขนาดใหญ่ที่อยู่ในเขาค้อ
**เห็นอากาศเย็นๆ อย่างนี้ยังมีคนลงไปเล่นน้ำเล้ยยย**
ปิดท้ายด้วยรูป ดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่จะมีให้เห็นเฉพาะในช่วง
เดือนธันวาคม-มกราคม เท่านั้น
และส่วนมากจะขึ้นในป่าลึก
ไม่ได้มีให้เห็นมากนัก โชคดีจริงๆ ที่ได้เจอ ^^
และเราก้อขอปิดท้ายการเดินทางครั้งนี้เอาไว้แต่เพียงเท่านี้
การเดินทางครั้งต่อไปของเราก้อคงจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้
ที่ คณะ O.O ไง
เพราะการเดินทางคือการที่ได้ก้าวเดินไปเจอประสบการณ์ใหม่ๆ ในทุกทุกวัน
ถึงแม้ว่าจะเป็นสถานที่ที่เคยไปมาแล้วก็ตาม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
หวัดดีปีใหม่ๆ
ตอบลบรูปสวยอะ ถ่ายรูปเก่งนะเนี่ย
^^
หวัดดีปีใหม่ๆๆ
ตอบลบเราก็ไปเที่ยวเหมือนกันๆๆ ไปเหนือ
ถ่ายรูปสวยอ่า ^^
อิจฉาคนได้ไปเที่ยวจังโว้ย เราอยู่แต่ในกทม.
ตอบลบแวะมาสวัสดีปีใหม่ (แอบช้าไปหน่อย)
ไว้เปิดเทอมเจอกัน
รูปสวยจังเลยยย
ตอบลบเจอกันพรุ่งนี้จ้า ^^
อยากไปเที่ยวบ้างงงงงงง เบื่อกรุงเทพมากๆ - -*
ตอบลบดอกไม้รูปสุดท้ายสวยจัง ^^"
Happy New Year
ตอบลบดูจากรูปแล้ว น่าจาหนุกมากนะ
น่าไปอ่ะ...
อยากไปมั่งจัง
ตอบลบวิวดีมาก ๆ เลย
ชอบดอกไม้รูปสุดท้ายมาก ๆ
ขอบคุณสำหรับของขวัญน้า
ตอบลบhappy new year
ทำไมปีใหม่ปีนี้มีแต่คนไปเที่ยวเขาค้อ
ตอบลบอิจฉาๆ เราไม่ได้เที่ยว
หญิงไปเขาค้อมาแล้วได้นั่งรถผ่านบริเวณที่ดูแล้วเหมือนกะเรากำลังขึ้นเขา แต่จิงๆแล้วรถแล่นลงเขาอ่ะป่าว มันแปลกเนอะ ว่าม่ะ.........
ตอบลบเขาค้ออากาศคงดีเนอะ ไปเที่ยวเหนือช่วงปีใหม่โรแมนติกเนอะ....
ว่ามั้ย ?
เคยไปๆ
ตอบลบสวยดีเนอะ ^^
beautiful sky!
ตอบลบสวยมากๆๆ
ตอบลบ