วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2552

To เขาค้อ, เพชรบูรณ์

ผ่านวันที่ 31 ธันวาคมมา 5 ชั่วโมงกับอีก 45 นาที
ดวงตาของฉันก้อเปิดขึ้น
พร้อมกับเสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือที่ร่ำร้อง
ราวกับไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
ถ้ามือที่อ่อนแรงของฉันไม่เอื้อมไปหามัน

เสียงนี้เป็นทั้งเสียงที่ฉันอยากจะได้ยิน
และก้อไม่อยากได้ยิน

ที่เป็นอย่างนั้นก้อเพราะว่า
มันเป็นเสียงที่พร่ำบอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า
"ถึงเวลาเดินทางแล้ว"

ในเวลานี้ ฉันอยากไปเดินทางไปที่ที่มีอากาศหนาวมากกว่าสิ่งใด
แต่สิ่งที่หยุดความต้องการของฉันไว้
ก็คือ "หัวที่หนักอึ้ง" ซึ่งเกิดจากอาการที่เรียกว่า "นอนไม่พอ"
เพราะเมื่อคืนมัวแต่ใช้เวลานอนที่มีอยู่น้อยนิด
ไปดูทีวีช่อง 7 ที่ถ่ายทอดสด Hands ให้ได้ดูกัน

เฮ้อๆๆๆๆ
เกริ่นนำมามากพอแล้ว
ขอเข้าเรื่องเลยล่ะกัน

พอถึงเวลาหกโมงครึ่ง ล้อรถก้อเริ่มหมุนออกจากบ้าน
ขับไปนานมาก ประมาน 4 ชม. ได้
ก้อถึงลพบุรี
แวะไปเที่ยวเขื่อนป่าสักที่ไม่มีดอกทานตะวันบานให้เห็นอีกแล้ว
เพราะช่วงนี้ไม่ใช่หน้าที่มันจะบาน
แต่ถึงอย่างนั้น พอดูๆ ไป มันก้อเป็นดอกทานตะวันที่สวยไปอีกแบบ
ซึ่งเราคิดว่า จะมีซักกี่คนกันที่ได้เห็นทุ่งทานตะวันที่ยังไม่บานมากขนาดนี้

เนื่องจากไม่มีดอกทานตะวันให้ถ่ายรูป
เราก้อเลยถือโอกาสยืนรับลมริมเขื่อนป่าสักฯ แทน
ขอบอกเลยว่าลมที่นี่เค้าไม่ธรรมดาจริงๆ
เป็นลมที่ แรง มากๆ
ชนิดที่ว่าถ้าหัวไม่ปลิวก้อให้มันรู้ไป

หลังจากนั้นก้อไปเที่ยวเขาค้อต่อ และก้อไปต่อที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ตอนแรกนึกว่ามาเที่ยวที่นี่จะได้เจอแต่อากาศเย็นสบาย
เหมือนไปต่างประเทศ
แต่เป็นอย่างนั้นแค่ช่วงที่ไม่มีแดดเท่านั้น
ถ้าช่วงไหนมีแดดนะ
อยากบอกว่า อากาศมันทรมานมาก
เหมือนกับจะเป็นไข้ยังไงยังงั้น
เพราะตรงไหนที่มีแดด อากาศก้อจะอบอุ่นถึงร้อน
แต่ถ้าตรงไหนที่ไม่มีแดด อากาศจะเย็นมากจนต้องใส่เสื้อหนาว
คิดแล้วยังเวียนหัวไม่หาย

อาการเวียนหัวยังไม่หมดแค่นั้น
เพราะเมื่อบวกกับการไปเที่ยวเขาค้อ ที่จะต้องนั่งรถขึ้น-ลง เขานานพอสมควร
เรียกอาการ "เมารถ" ได้ไม่น้อยเลย
ทั้งๆ ที่เคยนั่งรถไป ปาย มาแล้ว
ผ่านมรสุม 780 กว่าโค้งมาแล้ว
ก้อยังไม่รุสึกเมารถมากเท่าการนั่งรถเที่ยวที่เขาค้อเลย

เอาเป็นว่า ไปเที่ยวเขาค้อครั้งนี้ ประทับใจสถานที่ท่องเที่ยวมาก
แต่ไม่ประทับใจการนั่งรถ+แดด ซักเท่าไหร่
ยังไงก้อจะอัพโหลดรูป ให้เพื่อนๆ ได้ดูกันและกันน้า

สุดท้ายนี้ขอบอกว่า อยู่ที่ไหนก้อไม่สบายเท่าบ้านเรา ^^
คอนเฟิร์มเลย


บรรยากาศริมเขื่อนป่าสัก
ดูต้นไม้ก้อจะรู้ถึงความแรงของลมเลย



ที่นี่เมฆเยอะจริงๆ
ฝนเลยตกทุกวันเลย
แต่เสียดายที่ลมแรง เลยไม่มีทะเลหมอกให้เห็น



ในที่สุดก้อได้ลงมาเหยียบพื้นที่ภูหินร่องกล้า



นี่คือ ลานหินแตก



แต่ยังไม่เด็ดเท่าลานหินปุ่ม ที่ได้ชื่อว่าเป็น landmark ของเพชรบูรณ์กันเลยทีเดียว



นี่คือ ที่พักของเราเอง
ที่พักที่เป็นสีขาวบริสุทธิ์ทั้งหลัง
ด้านในเองก็เป็นสีขาวล้วนๆ ไม่มีสีอื่นเลย
ให้อารมณ์ igloo มากๆ



อันนี้คือน้ำตกศรีดิษฐ์
ที่เอาชื่อของ นายทหารประพจน์ ศรีดิษฐ์ มาตั้ง
เป็นน้ำตกหินชั้นขนาดใหญ่ที่อยู่ในเขาค้อ
**เห็นอากาศเย็นๆ อย่างนี้ยังมีคนลงไปเล่นน้ำเล้ยยย**



ปิดท้ายด้วยรูป ดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่จะมีให้เห็นเฉพาะในช่วง
เดือนธันวาคม-มกราคม เท่านั้น
และส่วนมากจะขึ้นในป่าลึก
ไม่ได้มีให้เห็นมากนัก โชคดีจริงๆ ที่ได้เจอ ^^

และเราก้อขอปิดท้ายการเดินทางครั้งนี้เอาไว้แต่เพียงเท่านี้
การเดินทางครั้งต่อไปของเราก้อคงจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้
ที่ คณะ O.O ไง
เพราะการเดินทางคือการที่ได้ก้าวเดินไปเจอประสบการณ์ใหม่ๆ ในทุกทุกวัน
ถึงแม้ว่าจะเป็นสถานที่ที่เคยไปมาแล้วก็ตาม

13 ความคิดเห็น:

  1. หวัดดีปีใหม่ๆ

    รูปสวยอะ ถ่ายรูปเก่งนะเนี่ย

    ^^

    ตอบลบ
  2. หวัดดีปีใหม่ๆๆ

    เราก็ไปเที่ยวเหมือนกันๆๆ ไปเหนือ

    ถ่ายรูปสวยอ่า ^^

    ตอบลบ
  3. อิจฉาคนได้ไปเที่ยวจังโว้ย เราอยู่แต่ในกทม.


    แวะมาสวัสดีปีใหม่ (แอบช้าไปหน่อย)

    ไว้เปิดเทอมเจอกัน

    ตอบลบ
  4. รูปสวยจังเลยยย

    เจอกันพรุ่งนี้จ้า ^^

    ตอบลบ
  5. อยากไปเที่ยวบ้างงงงงงง เบื่อกรุงเทพมากๆ - -*


    ดอกไม้รูปสุดท้ายสวยจัง ^^"

    ตอบลบ
  6. Happy New Year

    ดูจากรูปแล้ว น่าจาหนุกมากนะ

    น่าไปอ่ะ...

    ตอบลบ
  7. อยากไปมั่งจัง

    วิวดีมาก ๆ เลย

    ชอบดอกไม้รูปสุดท้ายมาก ๆ

    ตอบลบ
  8. ขอบคุณสำหรับของขวัญน้า

    happy new year

    ตอบลบ
  9. ทำไมปีใหม่ปีนี้มีแต่คนไปเที่ยวเขาค้อ

    อิจฉาๆ เราไม่ได้เที่ยว

    ตอบลบ
  10. หญิงไปเขาค้อมาแล้วได้นั่งรถผ่านบริเวณที่ดูแล้วเหมือนกะเรากำลังขึ้นเขา แต่จิงๆแล้วรถแล่นลงเขาอ่ะป่าว มันแปลกเนอะ ว่าม่ะ.........
    เขาค้ออากาศคงดีเนอะ ไปเที่ยวเหนือช่วงปีใหม่โรแมนติกเนอะ....
    ว่ามั้ย ?

    ตอบลบ
  11. ไม่ระบุชื่อ28 มกราคม 2552 เวลา 01:39

    สวยมากๆๆ

    ตอบลบ